ผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี (ดูภาพด้านล่าง)
เส้นทางท่องเที่ยวในจังหวัดอุบลราชธานีนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในหลายอำเภอของจังหวัด แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป ดังนั้นสถานที่ที่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรา (www.thongteaw.com) จะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมในวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของอ.โขงเจียมจังหวัดอุบลราชธานี นั่นคือ ผาแต้ม ภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
|
เสาเฉลียงเสาหินที่มีอายุมากว่าล้านปีท้าแดด ลม ฝนจนมีรูปร่างอย่างปัจจุบัน |
|
บรรยากาศทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางที่ผาแต้ม |
|
เ้ส้นทางสู่การเยี่ยมชมลานหินแตก ที่ลึกและหวาดเสียว |
ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเริ่มต้นการเดินทางสู่ ผาแต้ม โดยผ่านทางด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติ(ทุกท่านต้องผ่านอยู่แล้วเพื่อชำระค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาท รถยนต์ 30 บาทรวมคนขับ) ผ่านทางแยกสู่ที่ทำการไปทางทางถนนเริ่มต้นแวะถ่ายรูป แห่งแรกกันที่เสาเฉลียง สำหรับเสาเฉลียงนั้นเชื่อกันว่ามีอายุมากกว่าล้านปีเกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติทั้งจากลม แสงแดดและน้ำ ด้านบนของเสาเฉลียงที่เป็นหินทรายล้วนมีความคงทนกว่าเมื่อถูกกัดเซาะจากธรรมชาติจึงยังคงสภาพเป็นร่มคล้ายดอกเห็ด ส่วนที่โคนของเสาเฉลียงลักษณะเป็นหินทรายปนกับหินปูนความแข็งแกร่งจะน้อยกว่าจึงทำให้ถูกลม แสงแดดและน้ำกัดเซาะมากกว่าจนเหลือสภาพเป็นเสาคล้ายขาเห็ด ที่ยังคงตั้งตระหง่านท้าแดดท้าลมอยู่จนถึงปัจจุบัน สำหรับชื่อของเสาเฉลียงนั้นแผลงมาจากภาษาท้องถิ่น “สะเลียง” ที่แปลว่าเสาหินนั่นเอง
|
ทิวทัศน์แม่น้ำโขงและพื้นที่ทั้งฝั่งไทยลาวจากหน้าผาบริเวณผาแต้ม
|
|
เส้นทางศึกษาธรรมชาติชมภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ที่ทอดตัวผ่านหน้าผา |
ผ่านจากเสาเฉลียงจะมีทางแยกไปยังผาแต้ม และผาหมอนทางทีมงานของเราจึงเลือกที่จะไปชมทิวทัศน์ของบริเวณผาหมอนก่อนเนื่องจากอยู่ไกลกว่าขับไปจนถึงศาลารับเสด็จที่เป็นจุดชมวิวของผาหมอน เมื่อสำรวจแผนที่ของทางอุทยานฯที่จัดไว้ให้พบว่ามีเส้นทางชมภาพเขียนสีประวัติศาสตร์กลุ่มที่ 3 และ 4 อยู่ที่ผาหมอนแห่งนี้ด้วย แต่ทีมงานเราพยายามมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเดินไปตามเส้นทางบนแผนที่ก็ไม่พบอะไรจึงคิดจะกลับไปที่ผาแต้ม แต่แล้วในที่สุดสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายที่เก่ากับตัวอักษรสีจืดจางเขียนบอกทางไปชมภาพเขียนประวัติศาสตร์จึงค่อย ๆ ไต่ลงไปทางหน้าผาด้านล่าง เส้นทางนี้คับแคบ และมีหินระเกะระกะเป็นระยะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการเดิน กว่าจะมาถึงกลุ่มภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ที่อยู่บริเวณหน้าผาเหนือระดับสายตา ภาพเขียนสี (มีสีแดงคล้ายสีน้ำหมาก) จะมีรูปมือทั้งขนาดมือเด็ก และมือผู้ใหญ่ รูปคน รูปสัตว์ต่าง ๆ (สามารถสังเกตได้จากป้ายบอกรายละเอียดของทางอุทยาน ทำให้สามารถมองออกว่าเป็นภาพอะไรบ้าง) และทีมงานของเราก็ลัดเลาะกลับทางเดิมเพื่อขึ้นพาหนะคู่ใจทีมงานกลับไปทางแยกสู่ผาแต้ม
|
ภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นรูปร่างต่าง ๆ เท่าที่เราจะจินตนาการได้ แต่บางภาพก็บ่งบอกชัดเจน |
|
อีกหลากหลายภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างประเมินค่ามิได้ |
บนลานผาแต้มเป็นลานหินขนาดกว้างขวาง เป็นทั้งจุดชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พระอาทิตย์ตกตอนเย็น และทิวทัศน์ประเทศเพื่อนบ้าน ด้านล่างของลานผาแต้มมีเส้นทางไปจุดชมวิวหน้าผาเล็กอยู่ใต้ลานผาแต้ม เป็นอีกหนึ่งจุดที่เจ้าหน้าที่อุทยานแนะนำว่าชมพระอาทิตย์ขึ้นได้งดงามไม่น้อย จากบนลานผาแต้มจะเห็นป้ายบอกทางเดินชมภาพเขียนสีประวัติศาสตร์บริเวณริมหน้าผาผาแต้ม การเดินชมภาพเขียนสีบริเวณนี้สะดวกปลอดภัยกว่าบริเวณผาหมอนมาก มีการทำเส้นทางเดินไว้อย่างกว้างขวาง สะดวกสบาย มีจัดที่นั่งพักชมภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ผาแต้มที่อยู่เหนือระดับสายตาเป็นจุด ๆ ลักษณะภาพเขียนสีบริเวณผาแต้มนี้ ภาพจะมีขนาดใหญ่กว่า และระยะทางยาวกว่าบริเวณผาหมอน ภาพที่พบจำนวนมากมีรูปร่างแตกต่างกันทั้งภาพสัตว์เช่นปลา เต่า วัว หรือสุนัข ภาพคน ภาพฝ่ามือ หรือบางภาพที่จินตนาการไปได้หลากหลายแบบ บางคนเห็นเป็นมนุษย์ต่างดาว บางคนเห็นเป็นชุดแต่งกายของคนสมัยก่อน แต่ไม่มีใครทราบแน่นอนว่าเป็นอะไรกันแน่เพราะภาพเขียนสีประวัติศาสตร์เชื่อว่ามีอายุหลายพันปีก่อนที่พวกเราจะเกิดกันเสียอีก ดังนั้นเหล่าคนรุ่นหลังจึงควรได้อนุรักษ์คุณค่าของความงดงามนี้ไว้ให้ยืนนานโดยปฏิบัติตนในการชมภาพเขียนสีประวัติศาสตร์อย่างเคร่งครัด ภาพเขียนสีเหล่านี้จะได้ดำรงคงอยู่ให้ลูกให้หลานได้มีโอกาสชมต่อไป
|
ยามเช้ากับพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ทยอยออกมาจากหลังเมฆ |
|
แสงทองริมขอบฟ้าในยามเช้าวันสดใส |
การเดินทาง
จากตัวอำเภอโขงเจียมเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2134 จนถึงสามแยกให้ไปตามป้ายบอกทางสู่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ทางหลวงหมายเลข 2112 ตรงไปจนถึงอุทยานแ่ห่งชาติผาแต้ม
|